วันจันทร์ เวลา 17.00-18.50
การถ่ายทอดพลังงานในสิ่งมีชีวิต
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การถ่ายทอดพลังงานในสิ่งมีชีวิต
กฎสิบเปอร์เซ็นต์ (Ten percent law)
พลังงานที่ถ่ายทอดจากสิ่งมีชีวิตหนึ่งไปยังอีกสิ่งมีชีวิตหนึ่งในแต่ละลำดับขั้นมีประมาณ
10% ทั้งหมด อีก 90% จะสูญเสียไปในรูปของพลังงานอื่นๆ
เช่น ความร้อน การหายใจ
ห่วงโซ่อาหาร (Food chain)
ความสัมพันธ์เชิงอาหารระหว่างสิ่งมีชีวิตโดยการกินกันเป็นทอดๆ
หรือเป็นการถ่ายทอดพลังงานในรูปอาหารจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค
และจากผู้บริโภคสู่ผู้บริโภคลำดับถัดไป
ห่วงโซ่อาหารแบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ
- ห่วงโซ่อาหารแบบจับกิน (Predator chain)
- ห่วงโซ่อาหารแบบปรสิต (Parasitic chain)
- ห่วงโซ่อาหารแบบเศษอินทรีย์ (Detritus chain)
สายใยอาหาร (Food web) มีการกินกันเป็นทอดๆ
มีลักษณะเป็นเส้นตรง สิ่งมีชีวิตหนึ่ง จะมีการกินอาหารเพียงชนิดเดียวเท่านั้น
และเป็นลำดับ
พีระมิดนิเวศ (Ecological pyramid)
ความสัมพันธ์เชิงอาหารระหว่างสิ่งมีชีวิตคล้ายกับห่วงโซ่อาหาร
แต่แสดงผลเป็นแผนภาพรูปแท่งซ้อนๆกัน (คล้ายพีระมิด) ตามลำดับขั้นของการกิน
แบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ - พีระมิดจำนวนของสิ่งมีชีวิต
(Pyramid
of numbers) - พีระมิดมวลของสิ่งมีชีวิต (Pyramid of mass) - พีระมิดพลังงานของสิ่งมีชีวิต (Pyramid of energy)
ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) หมายถึง ความหลากหลายของสรรพสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
การมีสิ่งมีชีวิตหลายๆ ชนิด หลายสายพันธุ์
ประเภทของความหลากหลายทางชีวภาพ
1. ความหลากหลายทางพันธุกรรม หมายถึง ความหลากหลายของยีนส์ที่มีอยู่ในสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันมียีนส์แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ เช่น ข้าวมีสายพันธ์นับพันชนิด
สุนัขมีหลายสายพันธุ์ เป็นต้น 2. ความหลากหลายของชนิดพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต หมายถึง
ความหลากหลายของชนิดของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในพื้นที่หนึ่ง
มีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากหลายล้านชนิด
ซึ่งมีความแตกต่างกันทางด้านลักษณะเฉพาะ รูปร่าง การดำรงชีวิต 3. ความหลากหลายของระบบนิเวศ หมายถึง
ความซับซ้อนของลักษณะพื้นที่ที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคของโลก เมื่อประกอบกับสภาพภูมิอากาศ ภูมิประเทศทำให้เกิดระบบนิเวศ ถิ่นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกัน
ปล. สรุปบทเรียน จาก power point อาจารย์เครือครี วิเศษสุวรรณภูมิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น